โปรแกรมดูดไขมันหน้า กับ KMB Hospital คุณหมอลูกหนู

แม้ว่าการทำโปรแกรมดูดไขมันหน้า (Facial Liposuction) จะเป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง หรือกรอบหน้า และช่วยให้รูปหน้าดูได้สัดส่วนมากขึ้น แต่การทำโปรแกรมดูดไขมันหน้าไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน การพิจารณาความเหมาะสมต้องอยู่ภายใต้การดูแลและประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

1. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประเภท 
บุคคลที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวานที่ยังควบคุมไม่ได้ ภาวะผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากหัตถการ เช่น การติดเชื้อ แผลหายช้า หรือมีภาวะเลือดออก ง่าย ในกรณีเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมัน และปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางเลือกอื่นที่เหมาะสมและปลอดภัยกว่า 

2. ผู้ที่มีผิวบางหรือความยืดหยุ่นของผิวต่ำ 
การดูดไขมันหน้าอาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังบาง หรือผิวหนังเริ่มขาดความยืดหยุ่น เพราะหลังการดูดไขมันอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการหย่อนคล้อย หรือไม่กระชับเท่าที่ควร ส่งผลต่อความเรียบเนียนและความเป็นธรรมชาติของรูปหน้า อีกทั้งยังอาจเสี่ยงต่อการกระทบเส้นประสาทบางส่วนบริเวณใบหน้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการชา หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ในบางกรณี 

3. ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร 
การตั้งครรภ์และการให้นมบุตรเป็นช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงหัตถการทางการแพทย์ที่ไม่จำเป็น รวมถึงการดูดไขมันหน้า แม้เป็นหัตถการที่ไม่ได้ถือว่ามีความเสี่ยงสูง แต่กระบวนการต่าง ๆ เช่น การใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของทั้งมารดาและทารก รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คงที่ จึงควรรอจนร่างกายฟื้นตัวเต็มที่ก่อนพิจารณารับบริการ 

4. ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง 
ผู้ที่มีความคาดหวังว่าการดูดไขมันหน้าจะเปลี่ยนรูปร่างของใบหน้าอย่างสิ้นเชิง หรือไม่ต้องดูแลตัวเองหลังทำ อาจไม่เหมาะกับหัตถการนี้ การดูดไขมันเป็นเพียงหนึ่งในวิธีปรับสัดส่วนใบหน้าอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใบหน้าโดยสิ้นเชิง และต้องอาศัยการดูแลหลังทำอย่างถูกวิธี เช่น การพักฟื้น การใส่ผ้ารัดหน้า และการควบคุมอาหารร่วมด้วย

ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ 
หลังจากการทำโปรแกรมดูดไขมันหน้า ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า เช่น ใบหน้าที่ดูเรียวลง หรือกรอบหน้าชัดขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจมีอาการบวมช้ำเล็กน้อยในช่วงแรก ซึ่งเป็นภาวะปกติและมักค่อย ๆ ลดลงภายในไม่กี่วัน ผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะค่อย ๆ ปรากฏมากขึ้นเมื่ออาการบวมลดลง โดยใช้เวลาประมาณ 2–4 สัปดาห์ 

ระยะเวลาการพักฟื้น 
โดยทั่วไป การทำโปรแกรมดูดไขมันหน้าเป็นหัตถการที่ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน

• ผู้เข้ารับบริการส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ภายใน 1–2 วัน
• ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนบริเวณใบหน้าในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก
• หากมีอาการบวมมากหรือผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

การทำโปรแกรมดูดไขมันหน้า (Facial Liposuction) เป็นหัตถการที่ช่วยลดไขมันสะสมบนใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง หรือกรอบหน้า เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและมีมิติมากขึ้น หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ “โปรแกรมดูดไขมันหน้าเจ็บไหม?” บทความนี้จะมาอธิบายระดับความเจ็บ รวมถึงวิธีดูแลตัวเองเพื่อลดอาการบวมหลังทำ

ระดับความเจ็บปวดระหว่างและหลังทำ 
ในขณะทำหัตถการ แพทย์จะใช้ ยาชาเฉพาะที่ ซึ่งช่วยให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบาย และไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการทำโปรแกรมดูดไขมัน จึงสามารถทำหัตถการได้โดยไม่มีอาการปวดรุนแรง หลังจากการทำ อาจมีอาการเจ็บ ตึง หรือรู้สึกระบมบริเวณที่ทำโปรแกรมดูดไขมัน ซึ่งเป็นอาการปกติ และมักจะบรรเทาลงภายใน 2–3 วัน โดยอาการเหล่านี้สามารถจัดการได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์ โดยรวมแล้ว ระดับความเจ็บอยู่ในเกณฑ์ที่ทนได้ และสามารถควบคุมได้ด้วยยาชาและยาแก้ปวด