ผ่าตัดเสริมหน้าอก กับ KMB Hospital คุณหมอลูกหนู

โปรแกรมเสริมหน้าอก คืออะไร?

โปรแกรมเสริมหน้าอก คือการเพิ่มขนาดหรือปรับรูปทรงหน้าอกให้ดูสวย และเหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่รู้สึกว่า “หน้าอกเล็กไป ใส่เสื้อผ้าแล้วไม่มั่นใจ” หรือ “หน้าอกไม่เท่ากัน อยากให้ดูสมส่วน” การเสริมหน้าอกก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยเติมเต็มความมั่นใจได้ค่ะ ปัจจุบันการทำโปรแกรมเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นทางเลือกของผู้หญิงที่ต้องการรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ซึ่งสามารถเลือกขนาด ทรง และเทคนิคการทำได้ตามความเหมาะสมและปลอดภัยภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์

Image
เสริมหน้าอกเหมาะกับใคร

โปรแกรมเสริมหน้าอก เหมาะกับใคร?

ผู้ที่มีหน้าอกเล็กหรือไม่สมส่วน : การทำโปรแกรมเสริมหน้าอกช่วยเพิ่มความสมดุลและความโดดเด่นให้รูปร่าง ทำให้ลุคดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น 

ผู้ที่หน้าอกหย่อนคล้อย : โดยเฉพาะหลังจากการตั้งครรภ์หรือการลดน้ำหนัก การทำโปรแกรมเสริมหน้าอกจะช่วยให้ทรวงอกกลับมาดูเต็มอิ่มและกระชับ 

ผู้ที่ขาดความมั่นใจในรูปร่างของตนเอง : สำหรับผู้ที่รู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่าง การทำโปรแกรมเสริมหน้าอกสามารถช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้ 

ผู้ที่ต้องการปรับลุคหรือเพิ่มความเซ็กซี่ : การทำโปรแกรมเสริมหน้าอกสามารถเปลี่ยนลุคให้ดูน่าดึงดูด และเพิ่มเสน่ห์ให้กับทุกลุค 

ผู้ที่ต้องการทำโปรแกรมเสริมหน้าอกเพื่ออาชีพหรือโอกาสใหม่ ๆ : เช่นในสายงานที่ต้องการบุคลิกภาพที่น่าดึงดูด การทำโปรแกรมเสริมหน้าอกอาจจะช่วยให้พร้อมสำหรับโอกาสใหม่ๆขึ้นได้

โปรแกรมเสริมหน้าอก เทคนิคไหน? ใช่สำหรับคุณ

1.เทคนิคโปรแกรมเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular) 
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมมากพอสมควร ข้อดี 
- การผ่าตัดง่ายและใช้เวลาน้อย 
- เจ็บน้อย แผลหายไว ฟื้นตัวเร็ว 
- สามารถจัดรูปทรงหน้าอกได้ง่าย 

2.เทคนิคโปรแกรมเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular) 
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมน้อย ข้อดี 
- หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ 
- ลดการเกิดพังผืด 
- ลดโอกาสเห็นขอบซิลิโคน 

3.เทคนิคโปรแกรมเสริมหน้าอกแบบ Dual Plane 
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีหน้าอกทุกลักษณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย ข้อดี 
- ซิลิโคนไม่ไหลหรือเคลื่อนที่ออกด้านข้าง 
- เป็นธรรมชาติ คลำไม่เจอขอบซิลิโคน 
- ลดการเกิดปัญหานมเป็นริ้ว 

4.เทคนิคโปรแกรมเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน และไขมันตัวเอง (Fat Transfer Breast Augmentation) 
เทคนิคนี้จะได้จากการทำโปรแกรมดูดไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก และต้นขา แล้วนำไขมันนั้นฉีดกลับเข้าไปในหน้าอก เพื่อเพิ่มขนาด ลดความเสี่ยงจากการใช้วัตถุแปลกปลอมเข้าไปภายในร่างกาย หลังการฉีดไขมันเข้าไปในหน้าอก ไขมันที่ฉีดอาจไม่อยู่ตัวเหมือนกันในทุกคน บางส่วนอาจสลายไปเองได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจจะต้องทำใหม่เพิ่มเพื่อรักษาขนาดเอาไว้

Image
เสริมหน้าอกใต้และเหนือกล้ามเนื้อต่างกันอย่างไร
Image
รูปทรงซิลิโคนที่นิยมใช้เสริมหน้าอก

รูปทรงซิลิโคนที่นิยมใช้

การเสริมหน้าอกไม่ใช่แค่เรื่องของขนาดเท่านั้น แต่ “รูปทรงของซิลิโคน” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์หลังการทำโปรแกรมเสริมหน้าอกออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ และเข้ากับรูปร่างของแต่ละคน ปัจจุบันซิลิโคนเสริมหน้าอกมีหลายแบบ แต่ที่นิยมใช้มีอยู่ 3 รูปทรงหลัก ๆ ดังนี้ 

1.ซิลิโคนทรงกลม (Round Shape) 
ซิลิโคนทรงกลมถือว่าเป็นรูปแบบที่นิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นความอวบอิ่มของหน้าอกโดยเฉพาะบริเวณส่วนบน (Upper Pole) 
จุดเด่น: 

  • ทำให้หน้าอกดูเต็ม อวบอิ่ม และชิดกัน
  • ช่วยปรับรูปทรงของหน้าอกที่หย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึงขึ้น
  • หากซิลิโคนหมุนตัว จะไม่เห็นความผิดปกติของทรง เหมาะกับใคร:
  • ผู้ที่ต้องการลุคเซ็กซี่ หน้าอกชิด มีร่องชัด
  • ผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเดิมน้อยและต้องการเพิ่มวอลลุ่ม

 2.ซิลิโคนทรงหยดน้ำ (Teardrop Shape) 
ซิลิโคนทรงหยดน้ำมีลักษณะฐานกว้าง ปลายเรียว ลักษณะคล้ายเต้านมธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นความอวบอิ่มช่วงบน 
จุดเด่น: 

  • รูปทรงคล้ายเต้านมจริง ดูเป็นธรรมชาติเมื่อยืนหรือเคลื่อนไหว
  • เหมาะกับคนรูปร่างผอม หรือผู้ที่ต้องการความเนียนแบบไม่ให้คนสังเกตได้ง่าย ข้อควรระวัง:
  • ถ้าซิลิโคนหมุนตัว อาจทำให้ทรงเต้านมผิดรูป ต้องอาศัยความแม่นยำในการวาง เหมาะกับใคร:
  • ผู้ที่ต้องการลุคเรียบหรู ดูธรรมชาติ ไม่เน้นความเซ็กซี่ • คนที่มีเนื้อหน้าอกอยู่บ้างแล้ว และต้องการเพียงแค่ปรับทรง 

3.ซิลิโคน รุ่น เออร์โกโนมิกซ์ (Ergonomix) 
มีลักษณะพิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อยืน ซิลิโคนจะมีรูปทรงคล้ายหยดน้ำ แต่เมื่อผู้ใช้เอนหรือนอนลง ซิลิโคนจะเปลี่ยนเป็นทรงกลม ทำให้ดูเป็นธรรมชาติในทุกการเคลื่อนไหว 
จุดเด่น: 

  • ความเป็นธรรมชาติ: การปรับเปลี่ยนรูปทรงตามการเคลื่อนไหวช่วยให้เต้านมดูและเคลื่อนไหวเหมือนเต้านมธรรมชาติ
  • ความรู้สึกสัมผัส: ซิลิโคนประเภทนี้มักใช้เจลที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สัมผัสใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อธรรมชาติ
  • ลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดหดรัด (Capsular Contracture): พื้นผิวของซิลิโคนถูกออกแบบมาเพื่อลดการเกิดพังผืดรอบซิลิโคน 

เหมาะกับใคร: 

  • ผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกให้ดูเป็นธรรมชาติทั้งในรูปทรงและการเคลื่อนไหว
  • ผู้ที่กังวลเรื่องความรู้สึกสัมผัสของซิลิโคน
  • ผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดหดรัด อย่างไรก็ตาม การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกที่เหมาะสมควรปรึกษากับศัลยแพทย์โดยตรงก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการและปลอดภัยที่สุด

ผิวสัมผัสของซิลิโคนที่ใช้ในโปรแกรมเสริมหน้าอกมีกี่แบบ

1.ซิลิโคนผิวเรียบ (Smooth Surface) ผิวเรียบ ลื่น มีสัมผัสที่นุ่ม ดูเป็นธรรมชาติ 
2.ซิลิโคนผิวทราย (Textured Surface) ผิวสัมผัสมีความหยาบ ช่วยให้ซิลิโคนเกาะกับร่างกายได้ดี ลดการเกิดพังผืด 
3.ซิลิโคนผิวเรียบกึ่งเนื้อทราย หรือ นาโน (Nano Textured Surface) ซิลิโคนชนิดใหม่ล่าสุด อยู่กึ่งกลางระหว่างผิวเรียบและผิวทราย ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดพังผืด และให้สัมผัสที่นุ่ม ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

Image
ผิวสัมผัสของซิลิโคนเสริมหน้าอก
Image
ตำแหน่งการเปิดแผลเพื่อเสริมหน้าอก

ตำแหน่งแผลในทำโปรแกรมผ่าตัดเสริมหน้าอก

โปรแกรมผ่าตัดเสริมหน้าอก สามารถเลือกตำแหน่งรอยแผลกรีดบนผิวหนังได้ ตามความเหมาะสมกับสรีระและความต้องการแต่ละคน แต่ความเป็นจริง ตำแหน่งแผลผ่าตัดจะถูกจำกัดด้วยปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงชนิดและขนาดถุงซิลิโคนที่ใช้ 
แผลผ่าตัดที่ดีควรมีขนาดเล็กสุดเท่าที่ทำได้ แต่ก็ต้องกว้างพอให้ศัลยแพทย์สามารถจะสอดใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปได้ปลอดภัย ไม่ฉีกขาดหรือช้ำเกิน อยู่ในตำแหน่งที่ปิดได้สนิท และไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อสำคัญ รวมถึงสามารถซ่อนได้มิดชิดเมื่อแผลหายสนิท 
- แผลใต้รักแร้ (Axillary) 
- แผลรอบปานนม (Periareolar) 
- แผลใต้ราวนม (Inframammary Crease)

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรมเสริมหน้าอก

1.ปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์
หลังจากทำโปรแกรมเสริมหน้าอก แพทย์จะแนะนำวิธีการปฏิบัติหลังทำโปรแกรมเสริมหน้าอก เช่น การดูแลแผล การทานอาหาร การดูแลตนเองด้านอื่น ๆ และการนัดติดตามอาการหลังทำโปรแกรมเสริมหน้าอก ซึ่งควรทำตามที่แพทย์แนะนำและไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อให้มั่นใจว่าแผลผ่าตัดสมานตัวดี ได้ทรงหน้าอกถูกต้องตรงความต้องการ 

2.การดูแลแผลหลังเสริมหน้าอก

  • ห้ามให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ 7 วัน หรือจนกว่าจะตัดไหม
  • หมั่นดูแลความสะอาดรอยแผลเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ

3.การทานอาหาร

  • หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นทานโปรตีนเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวไวขึ้น
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
  • งดดื่มแอลกอฮอล์หรือทานอาหารหมักดองอย่างน้อย 4 สัปดาห์

4.การดูแลตัวเอง อื่น ๆ

  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงอย่างน้อย 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะอย่างน้อย 1-3 เดือน
  • ใส่ Support bra อย่างน้อย 3-6 เดือนเพื่อช่วยพยุงหน้าอกให้อยู่ทรง และช่วยลดการบวมช้ำหลังผ่าตัด 

5.สังเกตอาการหลังทำโปรแกรมผ่าตัดเสริมหน้าอก

หากหลังทำโปรแกรมผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้วพบอาการผิดปกติ เช่น แผลผ่าตัดบวมแดง มีหนอง มีเลือดซึมออก หรือ ร่างกายมีความผิดปกติอื่น ๆ เช่น มีไข้ ไอ หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

Image
การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอก
Image

ทำไมต้องเลือกเสริมหน้าอก ที่ KMB hospital คุณหมอลูกหนู

ปัญหาหน้าอกเล็ก หน้าอกห่าง หน้าอกหย่อนคล้อย หรือหน้าอกไม่เท่ากัน KMB Hospital พร้อมออกแบบอย่างละเอียด โดยคำนึงถึง สัดส่วน ความสมดุล และความมั่นใจ ให้กับลูกค้าที่เข้ารับบริการทุกคน ไม่ใช่เพียงการเลือกขนาดซิลิโคน แต่เป็นการรังสรรค์ความงามที่เหมาะกับคุณที่สุด 

โดยมีทีม Customer Service ให้คำปรึกษาแบบ 1 : 1 ดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกขั้นตอน 

พร้อมดูแลอย่างใส่ใจ ทีมแพทย์ดูแลใกล้ชิดทุกขั้นตอน ผ่าตัดโดยศัลยแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมทีมวิสัญญีแพทย์ดูแลเคสต่อเคสตลอดการผ่าตัด มุ่งเน้นถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สวยงาม และเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด

ช่องทางการติดต่อเพื่อขอรับคำปรึกษา