โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร กับ KMB Hospital คุณหมอลูกหนู
โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารคืออะไร?
โปรแกรมผ่าตัดกระเพาะอาหาร( Bariatric Surgery ) ที่ KMB hospital คุณหมอลูกหนู เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยวิธีการทั่วไป เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย การผ่าตัดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการดูแล สุขภาพและลดความเสี่ยงจากภาวะโรคเรื้อรังต่าง ๆ
ทำไมต้องทำโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
ลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง
โปรแกรมผ่าตัดกระเพาะอาหารช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักเกิน
เสริมสร้างความมั่นใจและสุขภาพจิต
การลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มความมั่นใจในรูปร่างและสุขภาพโดยรวม ส่งผลดีต่อสภาวะทางอารมณ์และคุณภาพชีวิต
ยืดอายุขัยและเพิ่มคุณภาพชีวิต
การควบคุมน้ำหนักและภาวะสุขภาพที่ดีขึ้นสามารถช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ
ป้องกันการเสื่อมของข้อต่อและกล้ามเนื้อ
การลดน้ำหนักช่วยลดภาระที่ข้อต่อและระบบกล้ามเนื้อต้องรับ ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคข้อเสื่อมและภาวะอักเสบต่างๆ
โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร เหมาะกับใคร
1. บุคคลที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงกว่าหรือเท่ากับ 40
ผู้ที่มี BMI ในระดับนี้มักอยู่ในภาวะอ้วนรุนแรงและมีความเสี่ยงสูงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักเกิน เช่น
- รคหัวใจและหลอดเลือด
- เบาหวานประเภท 2
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
2. บุคคลที่มี BMI ระหว่าง 35-39.9 และมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับภาวะอ้วน
สำหรับผู้ที่มี BMI ในช่วงนี้ แต่มีโรคร่วมที่เกิดจากภาวะอ้วน เช่น
- เบาหวานประเภท 2
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea – OSA)
- โรคไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์
3. บุคคลที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยวิธีการอื่น ๆ
ผู้ที่เคยพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีมาตรฐาน เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย หรือการใช้ยาลดน้ำหนัก แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อาจพิจารณาการผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นทางเลือก
4. บุคคลที่มีความพร้อมและความเข้าใจเกี่ยวกับการผ่าตัด
การผ่าตัดกระเพาะอาหารไม่ใช่วิธีลัดในการลดน้ำหนัก แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เข้ารับบริการในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตหลังการผ่าตัด เช่น
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การติดตามผลกับแพทย์และทีมสุขภาพ
5. ได้รับการประเมินและแนะนำจากแพทย์
ทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องจะทำการประเมินความพร้อมของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งรวมถึง
- การตรวจสุขภาพโดยรวม
- การวิเคราะห์ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- การพิจารณาสภาพจิตใจและความสามารถในการปรับตัว
โปรแกรมผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก อาจไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน จึงจำเป็นต้องได้รับการประเมินและคำแนะนำจากแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษานี้เหมาะสมกับเราหรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจเข้ารับ การผ่าตัดควรอยู่บนพื้นฐานของสุขภาพโดยรวมและเป้าหมายในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของแต่ละบุคคล
น้ำหนักเท่าไหร่ ควรตัดกระเพาะ?
วิเคราะห์โดยใช้การคำนวณดัชนีมวลกาย (BMI) คือค่าดัชนีที่ใช้ชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) และส่วนสูง (เซนติเมตร) ซึ่งสามารถระบุได้ว่า ตอนนี้รูปร่างของคนคนนั้นอยู่ในระดับใด ตั้งแต่อ้วนมากไปจนถึงผอมเกินไปวิธีคำนวณ BMI ในการหาค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว [กิโลกรัม] ÷ ส่วนสูง [เมตร] ยกกำลังสอง
- ต่ำกว่า 18.5 : น้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน
- 18.5 - 24.9 : น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- 25 - 29.9 : น้ำหนักเกิน
- 30 ขึ้นไป : ภาวะอ้วน
- 40 ขึ้นไป : ภาวะอ้วนขั้นรุนแรง
ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) และการพิจารณาโปรแกรมผ่าตัดกระเพาะอาหารที่ KMB hospital ภายใต้การดูแลของ หมอลูกหนู จะพิจารณา ผู้ที่มี BMI สูงมากอาจได้รับคำแนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป เช่น โปรแกรมผ่าตัดกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มี BMI ตั้งแต่ 40 ขึ้นไป หรือมี BMI ตั้งแต่ 35 ขึ้นไปร่วมกับปัญหาสุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน
การวัดเส้นรอบเอวเพื่อประเมินความเสี่ยง
การวัดเส้นรอบเอวเป็นอีกหนึ่งวิธีในการประเมินความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับไขมันในช่องท้อง เกณฑ์เส้นรอบเอวที่แนะนำมีดังนี้:
- ผู้ชาย : ไม่ควรเกิน 102 เซนติเมตร
- ผู้หญิง : ไม่ควรเกิน 80 เซนติเมตร
หากเส้นรอบเอวเกินเกณฑ์ อาจเป็นสัญญาณของความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดโรคเบาหวานและโรคหัวใจ
ข้อดีของการโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
1. ลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทาน ช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาผลลัพธ์ในระยะยาว
2. ลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะอ้วน ช่วยลดโอกาสเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
3. ปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิต เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหว ลดอาการปวดข้อ ปรับปรุงระบบทางเดินหายใจ และคุณภาพการนอนหลับ
4. ส่งเสริมสุขภาพจิตและความมั่นใจในตนเอง ลดความเครียด เพิ่มความมั่นใจ และพัฒนาภาพลักษณ์ตนเอง
5. ปรับพฤติกรรมการกินและสร้างวินัยในการดูแลสุขภาพ กระตุ้นให้ปรับพฤติกรรมการกิน ควบคู่กับการดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์
6. ลดภาวะแทรกซ้อนและโรคเรื้อรังที่เป็นอันตราย ลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังและช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อเสียของการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
- ภาวะแทรกซ้อน เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เลือดออก ลิ่มเลือดอุดตัน
- การดูดซึมสารอาหารลดลง เสี่ยงขาดวิตามิน B12, ธาตุเหล็ก, แคลเซียม
- ผลข้างเคียงทางเดินอาหาร ท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ (Dumping Syndrome)
- ผลกระทบทางอารมณ์ อารมณ์แปรปรวน เสี่ยงภาวะซึมเศร้า
- น้ำหนักอาจกลับมา หากไม่ปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย
โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ มีกี่ประเภท
โปรแกรมการลดกระเพาะอาหารมีหลายประเภท โดยประเภทที่พบได้บ่อย ได้แก่
Sleeve Gastrectomy
เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะอาหาร โดยตัดกระเพาะออกบางส่วนให้มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก ซึ่งช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้
Roux-en-Y Gastric Bypass
เป็นการผ่าตัดที่มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางของระบบทางเดินอาหารเพื่อลดการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งส่งผลต่อการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยที่ KMB hospital ภายใต้การดูแลของ หมอลูกหนู มีศัลยแพทย์เด้านการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง ป็นคนประเมินและเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล โดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ โปรแกรมการผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยวิธีทั่วไป เช่น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคที่เกี่ยวข้องกับภาวะโรคอ้วน เช่น โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง
ประเภทของโปรแกรมตัดกระเพาะ ที่ KMB Hospital
การใส่ห่วงรัดกระเพาะ (Gastric Banding)
ใช้ห่วงรัดกระเพาะเพื่อลดปริมาณอาหารที่รับประทาน แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลงเนื่องจากประสิทธิภาพจำกัด โปรแกรมการผ่าตัดกระเพาะอาหารด้วยเทคนิคแผลหน้าท้องรูเดียว (Single Port Surgery) ผ่าตัดผ่านแผลเล็กเพียงรูเดียว ลดแผลเป็น ฟื้นตัวเร็ว และลดความเจ็บปวด
โปรแกรมการผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy)
ตัดกระเพาะอาหารออก 75-80% ลดปริมาณอาหารที่รับประทานและฮอร์โมนความหิว ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ
โปรแกรมการผ่าตัดกระเพาะอาหารร่วมกับตัดต่อลำไส้แบบบายพาส (Gastric Bypass)
ตัดกระเพาะอาหารให้เล็กลงและเปลี่ยนเส้นทางการย่อยอาหาร ลดการดูดซึมแคลอรี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างเข้มข้น
โปรแกรมการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนักแบบ Sleeve Plus (SG-PJB)
พัฒนาเพิ่มเติมจาก Sleeve Gastrectomy โดยเชื่อมต่อลำไส้เล็กใหม่เพื่อลดการดูดซึมอาหารและเพิ่มประสิทธิภาพการลดน้ำหนัก
โปรแกรมเย็บกระเพาะอาหารแบบส่องกล้องผ่านทางปาก (Endoscopic Sleeve Gastroplasty by OverStitch)
เย็บกระเพาะด้วยเทคนิคส่องกล้องผ่านทางปาก ไม่มีแผลผ่าตัด ฟื้นตัวเร็วและมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก
โปรแกรมการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร (Gastric Balloon)
ใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเพื่อลดปริมาณอาหารที่รับประทาน เป็นวิธีไม่ต้องผ่าตัดและสามารถถอดออกได้
ที่ KMB hospital ภายใต้การดูแลของ หมอลูกหนู และทีมศัลยแพทย์ เรามุ่งมั่นในการให้บริการที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง หากคุณกำลังพิจารณาวิธีการลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับสุขภาพของคุณ เราขอแนะนำให้คุณปรึกษากับศัลยแพทย์ของเราโดยตรง เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดในการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพของคุณอย่างครบวงจร
การเตรียมตัวก่อนทำ โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery)
1. การตรวจร่างกายและการประเมินสุขภาพโดยแพทย์
ผู้เข้ารับการผ่าตัดควรเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากแพทย์ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์ ต้องผ่านการประเมินภาวะสุขภาพจิตใจเพื่อให้มั่นใจว่าพร้อมสำหรับการผ่าตัด
2. การปฏิบัติตามคำแนะนำด้านโภชนาการ
ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการควรลดน้ำหนักตัวลงประมาณ 3-5 กิโลกรัมก่อนเข้ารับการผ่าตัด
3. การควบคุมโรคประจำตัว
หากมีโรคประจำตัว ควรเข้ารับการประเมินภาวะของโรคและยืนยันว่ามีการควบคุมอาการอย่างเหมาะสม ควรแจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานเป็นประจำ
4. การงดอาหารเสริมและยาบางประเภท
ควรงดยาวิตามิน อาหารเสริม และยากลุ่ม Aspirin หรือ NSAIDs อย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด หากมีการใช้ยาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
5.การงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 7 วันก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากอาจส่งผลให้แผลหายช้าลง
6.การแจ้งข้อมูลทางการแพทย์เพิ่มเติม
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ ควรแจ้งแพทย์ล่วงหน้า หากมีการใช้ยาหรืออยู่ระหว่างการรักษาเพิ่มเติม ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนวันผ่าตัด
7.การปรับเปลี่ยนอาหารก่อนผ่าตัด
ในช่วง 1-3 วันก่อนผ่าตัด ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ใน 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรรับประทานอาหารเหลวและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสีแดง
8.การงดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนระหว่างการผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร KMB hospital คุณหมอลูกหนู
1.การให้ยาสลบเพื่อความปลอดภัยระหว่างการผ่าตัด
ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะได้รับการวางยาสลบทั่วไปเพื่อให้ไม่รู้สึกตัวและปราศจากความเจ็บปวดตลอดระยะเวลาการผ่าตัด
2.การดำเนินการผ่าตัดด้วยเทคนิคการส่องกล้อง (Laparoscopic Surgery)
การใช้กล้องขนาดเล็กและเครื่องมือผ่าตัดผ่านแผลขนาดเล็กเพื่อทำการผ่าตัด ลดความเจ็บปวดและช่วยให้การฟื้นตัวเร็วขึ้น
3.เทคนิคการผ่าตัดตามที่เลือกเพื่อการลดน้ำหนัก
- Sleeve Gastrectomy: การตัดกระเพาะอาหารส่วนใหญ่เพื่อให้กระเพาะมีขนาดเล็กลง
- Gastric Bypass: การตัดกระเพาะและเชื่อมต่อกับลำไส้เล็กเพื่อลดการดูดซึมสารอาหาร
- Balloon Placement / OverStitch: การใช้บอลลูนหรือการเย็บกระเพาะเพื่อปรับขนาดและการทำงานของกระเพาะโดยไม่ต้องตัดกระเพาะ
4.การปิดแผลและการดูแลหลังการผ่าตัด
การปิดแผลด้วยไหมเย็บที่สามารถละลายได้เอง พร้อมทั้งการติดตามอาการในห้องพักฟื้นอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย
การดูแลหลังทำโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
- การดูแลทางเดินหายใจ หลังผ่าตัด ทีมแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีการใช้หน้ากากออกซิเจนชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
- การให้สารอาหาร ผู้เข้ารับบริการจะได้รับสารอาหารทางเส้นเลือดในช่วงแรกเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย
- การเคลื่อนไหวเพื่อฟื้นตัว เมื่อลดอาการวิงเวียน แพทย์แนะนำให้ขยับร่างกาย เช่น ลุกนั่งหรือเดิน เพื่อลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
- การเฝ้าระวังอาการ พยาบาลตรวจสัญญาณชีพ เช่น ความดันโลหิต อัตราการเต้นหัวใจ และระดับออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง
- การปรับพฤติกรรมการกิน แนะนำโภชนาการที่เหมาะสมและปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้เข้ากับระบบย่อยอาหารใหม่
- การติดตามผลกับแพทย์ ควรเข้าตรวจตามนัดหมายเพื่อประเมินผลการรักษาและปรับแผนดูแลสุขภาพ
KMB Hospital ภายใต้การดูแลของ หมอลูกหนู มุ่งมั่นดูแลใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน
คำแนะนำในการดูแลตนเองหลังทำโปรแกรมผ่าตัดกระเพาะอาหาร
- ดูแลแผลผ่าตัด รักษาความสะอาด หลีกเลี่ยงน้ำและสิ่งสกปรก หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์
- โภชนาการเพื่อฟื้นตัว ปรับอาหารให้เหมาะสม ควรทานอาหารย่อยง่าย ปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง และเสริมวิตามินตามคำแนะนำ
- ออกกำลังกายเบื้องต้น เดินเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดความเสี่ยงลิ่มเลือด และช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
- ติดตามผลสุขภาพ ตรวจติดตามอาการตามนัดหมาย เพื่อตรวจหาภาวะแทรกซ้อนและปรับแผนการรักษา
- เสริมสร้างสุขภาพจิต รับกำลังใจจากครอบครัวและกลุ่มสนับสนุน เพื่อช่วยปรับตัวและใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ
ความเสี่ยงของภาวะน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหลังทำโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก แต่หากไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดำเนินชีวิต อาจทำให้เกิดภาวะน้ำหนักตัวกลับเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากกระเพาะอาหารมีความสามารถในการขยายตัวเมื่อรับประทานอาหารในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป
สาเหตุที่ทำให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มหลังทำโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
1. พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล
การกลับไปบริโภคอาหารแคลอรีสูง ของหวาน หรือกินจุกจิกระหว่างมื้อ อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
2. การออกกำลังกายที่ไม่สม่ำเสมอหรือไม่เพียงพอ
การไม่มีกิจกรรมทางกายหรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลต่ออัตราการเผาผลาญ และเพิ่มโอกาสของการกลับมาอ้วน
3.การปรับตัวของร่างกายภายหลังการผ่าตัด
เมื่อเวลาผ่านไป กระเพาะอาหารอาจขยายตัว ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้มากขึ้น จึงต้องควบคุมพฤติกรรมการกินอย่างต่อเนื่อง
4.ปัจจัยทางจิตใจและอารมณ์ที่ส่งผลต่อการกิน
ความเครียด ภาวะซึมเศร้า หรือการกินเพื่อปลอบใจตนเอง ล้วนมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคและทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
5. การขาดการติดตามผลและดูแลต่อเนื่องกับแพทย์
การไม่เข้าพบแพทย์หรือนักโภชนาการตามนัด อาจพลาดโอกาสในการปรับพฤติกรรมและแก้ไขปัญหาตั้งแต่ระยะแรก
รวมคำถามเกี่ยวกับโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร
Q: หลังทำโปรแกรมผ่าตัดจะกินอาหารได้ตามปกติไหม หรือชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอด?
A: หลังทำโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร พฤติกรรมการกินจะเปลี่ยนไปถาวร แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะอดอาหารหรือไม่มีความสุขกับการกิน ช่วงแรกต้องปรับตัวโดยกินอาหารเหลว → อ่อน → ปกติ ตามลำดับ เมื่อฟื้นตัวแล้วสามารถกินได้ตามปกติ แต่ปริมาณลดลง และควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เน้นโปรตีน ลดของทอด เคี้ยวให้ละเอียด และงดน้ำอัดลมเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
Q: อ้วนไม่มาก แต่ลดไม่ลง ควรพิจารณาผ่าตัดไหม?
A: โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะอ้วนระดับรุนแรง (BMI ≥ 35) หรือมีโรคร่วม เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง หากคุณมีน้ำหนักเกินไม่มาก แต่ลดไม่ลง ควรลองปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายก่อน หาก BMI อยู่ระหว่าง 30-34.9 อาจพิจารณาผ่าตัดได้ในกรณีที่มีปัญหาสุขภาพจากน้ำหนักเกิน และได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเป็น “เครื่องมือ” ตัวช่วยนึงเท่านั้น ไม่ใช่ “ทางลัด” ในการลดน้ำหนัก หลังทำการรักษาแล้ว คนไข้ต้องมีวินัยในการดูแลตนเองหลังผ่าตัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
Q: หลังทำโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะแล้วเบาหวาน ความดัน จะดีขึ้นจริงหรือแค่ชั่วคราว?
A: โปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารสามารถช่วยควบคุมหรือบรรเทาเบาหวานและความดันโลหิตสูงได้จริง โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคอ้วนร่วมด้วย งานวิจัยพบว่าเบาหวานชนิดที่ 2 อาจดีขึ้นหรือหายไปในบางราย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับอินซูลินและฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญ
ทำไมต้องเลือกโปรแกรมผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารที่ KMB hospital คุณหมอลูกหนู
ดูแลโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางส่องกล้องขั้นสูง
ทีมแพทย์พร้อมดูแลการรักษาเฉพาะบุคคล และวางแผนสุขภาพในระยาว ด้วยทีมศัลยแพทย์เฉพาะทาง ความชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องขั้นสูง แผลในการผ่าตัดมีขนาดเล็ก ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว
การดูแลและติดตามผลในกลุ่มส่วนตัวอย่างใกล้ชิด
โดยทีมแพทย์ให้คำแนะนำด้านโภชนาการและการดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมการสนับสนุนตลอด 1 ปี เพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมาย และมีสุขภาพดีในระยะยาว
บริการพรีเมียม (Premium Service)
มีพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดกระบวนการ ได้รับการดูแลที่เหนือระดับ ตั้งแต่การตรวจสุขภาพเบื้องต้น วางแผนการรักษา ไปจนถึงการติดตามผลอย่างต่อเนื่องนานถึง 1 ปี โดยไม่ต้องรอคิวนาน พร้อมทีมแพทย์ที่คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา
Eng
ไทย